วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เทศกาลปล่อยแสง 3 ตอน เด็กฉลาด ชาติเจริญ!!!

เทศกาลปล่อยแสง เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ “Creative Thailand สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์” ซึ่งจัดขึ้นตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างเสริมขีดความสามารถทางการ แข่งขันของประเทศด้วยการมุ่งพัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ภายใต้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) จึงได้จัดงานเทศกาล “ปล่อยแสง: คิด/ทำ/กิน” ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสสำหรับทุกคนในการนำเสนอความคิดและผลงานสร้างสรรค์ที่ สามารถผลิตเป็นชิ้นงานได้จริง และสร้างบรรยากาศแห่งการพบปะ แลกเปลี่ยนระหว่างเจ้าของผลงานและผู้ที่สนใจ อันจะนำไปสู่การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อการสร้างรายได้ต่อไป

ความคิดเห็นเกี่ยวกับเทศกาลนี้ ผมคิดว่าเป็นงานที่ช่วยกระตึ้นให้นักศึกษาตื่นตัวในการแสดงออกทางผลงานได้เป็นอย่างดี เพราะงานนี้ได้ให้โอกาสเต็มที่กับนักศึกษา เพื่อที่จะนำเสนองาน เสนอความคิด ละความสร้างสรรค์ ทำให้ได้พบปะกันในหมู่คณะของคนที่ชอบงานแนวๆนี้ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกัน ทำให้ผู้เข้าชมได้ทั้งความรู้ใหม่ๆ และไอเดียดีๆ โดนๆ นำกลับไปคิดเพื่อผลักดันงานตัวเองให้พัฒนาต่อๆไป

ผลงานชิ้นที่จะมาแนะนำ จริงๆแล้วมีมากมายหลายชิ้นมาก แต่เลือกๆที่โดนๆ ก้อประมาณนี้...โปรดติดตามต่อไป...

ผลงานชิ้นที่ 1

"LEFT IS MORE : That You Think "

ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับผลงานนี้ อย่างแรกเลยที่เดินผ่านล๊อคนี้ ได้สะดุดตาเข้าเต็มๆกับ Font ที่ใหญ่โตอลังการอยู่ตรงหน้าแล้วที่ทำให้สนใจไปมากกว่านั้นคือ "อ่าวเฮ้ย...มันกลับด้านนิหว่า?" เลยทำให้ต้องเดินเข้าไปดูด้วยความสงสัย ทำให้ได้เห็นที่จัดวาง Typo อย่างสวยงามสะอาดตา ทั้งสีและการจัดวาง ดูเท่ดี แต่มันไม่ได้มีแค่นั้น เพราะสิ่งเหล่านี้ ที่เจ้าของผลงานต้องการสื่อมันมีความหมายแฝงอยู่เป็นเรื่อง ปัญหาในการดำรงชีวิตของคนที่ถนัดซ้าย กับโลกที่ของใช้ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อคนถนัดมือขวา เอาละซิ...คิดไปคิดมา มันก็จริงของเค้านิ...


โดยผลงานที่นำเสนอนั้น ออกมาในรูปแบบสิ่งพิมพ์ กับหนังสือ เชิงทดลอง

ตั้งแต่การเช็คค่าสี การจัดวางตัวอักษร การวางเลขหน้า

แนวความคิด : ปัญหาของคนถนัดซ้าย
ผลงานโดย : http://typoarty.blogspot.com

ผลงานชิ้นที่ 2
"Trash Is One Kind Of Weapons!"

ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับผลงานนี้ เหมือนเช่นเคยเดินผ่านแล้วสะดุดตาอีกแล้วกับผลงานที่เป็นการ Retuch ภาพ แต่งภาพ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ผมเห็นแว้บแรกแล้วคิดเลยว่า " โคตรเท่!! "

ด้วยทั้งภาพประกอบที่เป็นกราฟฟิคขั้นเทพทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แสง สี เสียง ( ไม่มีเสียงสินะ )

ที่ดูกี่รอบๆ ก้อ โคตรเท่ สำหรับผม เพราะส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบทางด้านการใช้ photoshop อยู่แล้ว แล้วยิ่งเจองานหล่อๆ แบบนี้แล้วลก้อ....พลาดละเสียใจแน่นอน

แต่ความเทพของเค้าคนนี้ไม่ได้หมดแค่นี้ เพราะว่ายังมีภาพประกอบที่เป็นการ Drawing รวมอยู่ด้วย ซึ่งรายละเอียดนั้น...สุดๆ จริงๆ สมกับที่เป็นเด็กศิลปากรณ์มากครับท่าน!

แนวความคิด : ภาพประกอบที่ดูแล้วเป็นแนว Fantasy ส่วนประกอบย่อยๆจะเป็นพวกเศษเหล็ก

ผลงานโดย : ศุภกรณ์ สุนานันท์ มัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัย ศิลปากรณ์

ผลงานชิ้นที่ 3
"ประเทศไทย : สวัสดีทุนนิยม"

ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับผลงานนี้ เป็นผลงานที่ดูแล้วสะท้อนถึงบ้านเราได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งสื่อสารผ่านทางสัญลักษณ์ออกมาได้ชัดเจน และเป็นความจริงในปัจจุบันมาก และยังแฝงมุมตลกๆ ให้คนที่มาดูได้คิดแล้วขำๆกันไป กับเรื่องราวที่คนเรานั้นก้อละเลยกันไปจริงๆ ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ

โดยตัวสัญลักษณ์นั้นทำออกมา ได้กระชับดูแล้วเข้าใจได้ไม่ยากเลย เปิดดูเพลินๆกันได้เลยละงานนี้

แต่ที่ชอบมากที่สุดคือตัวสัญลักษณ์ของ พี่โรนัล แห่ง แม๊คโดนัล นั่นเอง ที่สื่อได้ถึงค่านิยมของคนในบ้านเราได้แบบเจ็บๆดี

ผลงานโดย : ณัฐ แสนชื่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Home - by Yann Arthus-Bertrand

จากที่ได้ชมภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ทำให้ได้สัมผัส เรื่องราวที่น่าตื่นเต้นของโลกเราเองที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่ก่อนกำเนิดโลก จากสัตว์เซลเดียววิวัฒนาการมาจนปัจจุบัน กลายมาเปนมนุษย์ จากมนุษย์ได้ใช้มันสมองในการประดิษฐ์ คิดค้น ตั้งแต่สิ่งเล็กๆน้อยๆไปจนถึงตึกรามบ้านช่องและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ จนกลายเป็นชุมชน เป็นเมือง เป็นประเทศมาจนทุกวันนี้ และด้วยความฉลาดในการประดิษฐ์คิดค้นนั้นเอง ได้ทำให้เกิดเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ทั้งพลังธรรมชาติ และพลังงานจักรกล แต่ที่สำคัญคือการใช้ธรรมชาติของมนุษย์ ที่เกินขีดจำกัด หรือบางกลุ่มบางพวกใช้แบบไม่คำนึงถึงอนาคตว่า การที่ทำเกินกว่าเหตุโดยที่ไม่ได้สนใจนั้น จะทำให้เกิดอะไรในภายภาคหน้ากับธรรมชาติของเราเอง


วิธีการนำเสนอของภาพยนต์เรื่องนี้เป็นที่แปลกตาสำหรับผมเป็นอย่างมาก อย่างแรกเลยคือการดำเนินเรื่องราวด้วยภาพมุมสูง เกือบตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ได้เห็นธรรมชาติ ต่างๆบนโลกของเราได้ในมุมกว้างจากด้านบน ซึ่งไม่มีทางที่คนธรรมดาอย่างเราๆจะมีโอกาสได้เห็นจริงๆ และด้วยภาพที่มีสีสันที่สดใสสะดุดตา ทำให้มันดูน่าติดตามมากขึ้นทันที ส่วนคำบรรยายนั้นโดยรวมแล้วทำให้เข้าใจในการดำเนินเรื่องได้ดีอยู่แล้ว แต่มันไม่ใช่แค่นั้น มันยังมีทั้งคำที่ทำให้คนดูสะกิดใจกับเรื่องราว ที่เป็นเรื่องจริงที่ บางคนอาจละเลยไปในการดำรงชีวิตปัจจุบัน อย่างเช่นการตัดไม้ทำลายป่า ใช้ของที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติจนเกิดการสะสมทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เป็นต้น


สิ่งที่ชอบที่สุดในภาพยนต์เรื่องนี้คือ การนำเสนอภาพที่น่าสนใจ ทั้งสีสัน และมุมมอง รวมทั้งเรื่องราวด้วย ทำให้มันดูน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะแต่ละฉากมันทำให้นึกตลอดว่า ต่อไปจะเป็นอย่างไร ทำให้คิดได้ว่าการถ่ายในมุมกว้างนั้นทำให้เห็นในสิ่งที่ผู้กำกับเองอยากจะให้เห็นที่สุดคือ เรา หรือ มนุษย์ นั่นเองที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายโลกใบนี้เอง ตั้งแต่ต้นจนจบ...


ส่วนสิ่งที่ไม่ชอบคือ ผมเป็นคนที่ดูอะไร นิ่งๆเรื่อยๆ ไปได้ไม่นาน ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ มันกินเวลานานพอสมควร ไม่มีพักเหมือนละคร จึงทำให้เกิดอาการ ง่วง...


สิ่งที่ผมได้รับจากภาพยนต์เรื่องนี้ อันดับแรกเลยคือ ได้ความรู้ทั้งเก่าและใหม่ เหมือนได้ทบทวนบทเรียนตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังได้ความรู้ใหม่ๆอีกหลายด้าน ทั้งเรื่องราวของธรรมชาติ ทั้งมุมมองการนำเสนอภาพยนต์ของผู้กำกับ และยังได้เรื่อง art direction ในบางส่วน ไม่มากก็น้อย

ข้อเสนอแนะ ภาพยนต์มีความยาวมากไป ถ้ามีเนื้อเรื่องสอดแทรกให้น่าตื่นเต้น ตกใจ มากกว่านี้อาจจะช่วยในเรื่องการทำให้คนดูติดตามได้จนจบ โดยไม่ง่วง - -"

Keyword

สัตว์ป่า
สิ่งก่อสร้าง
มนุษย์
เทคโนโลยี
พลังงานแสงอาทิตย์
พลังงานลม
พลังงานน้ำทะเล
ภัยพิบัต
ไฟ
พระเจ้าให้อะไรกับเรา?